แชร์

ไม่รู้ไม่ได้แล้ว! กับสรรพคุณของขิงที่ช่วยรักษาโรคได้มากมาย

อัพเดทล่าสุด: 9 มิ.ย. 2024
217 ผู้เข้าชม

อาการไอ อาการเจ็บคอ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุก ๆ วัน โดยบางทีเราก็ไม่รู้เลยว่า สาเหตุหรือต้นตอของอาการนั้นมาจากอะไร เพราะช่วงที่ผ่านมามี ทั้งฝนตก โควิด หรือว่าอากาศแห้งฝุ่น PM2.5 เยอะ ซึ่งแน่นอนว่าอาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญให้เราไม่น้อย การทานน้ำขิงก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยได้ทั้งอาการเจ็บคอและอาการไอ อีกทั้งขิงยังเป็นยาและมีประโยชน์มากมาย วันนี้เราจึงจะพามาทำความรู้จักกับสมุนไพรโบราณที่มีทั้งคุณประโยชน์ แถมยังมีสรรพคุณรักษาโรค และมีสูตรทำเมนูสุดสดชื่นจากขิงอย่าง Ginger Ale มาฝากอีกด้วย

มารู้จักกับขิง

ขิงเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง เป็นพืชล้มลุก อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ ข่า ขมิ้น มีลักษณะเป็นเหง้าหรือลำต้นใต้ดินที่มีกลิ่น รสชาติเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติเป็นยาได้ และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งนำมาประกอบอาหาร หรือนำมาทำเป็นยาสมุนไพรที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณก็ได้เช่นกัน

8 สรรพคุณและคุณประโยชน์จากขิง

·       เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ขิงมีน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า จินเจอร์รอล (Gingerol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีนอล มีส่วนกระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระจะมีหน้าที่ในการจับและยับยั้งอนุมูลอิสระ แม้ว่าโดยปกติแล้วร่างกายของเราสามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้ แต่จะสร้างได้ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องบริโภคผัก ผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย

·       ป้องกันไข้หวัด

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าในขิงมีสาร จินเจอร์รอล (Gingerol) ที่นอกจากจะต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการทำลายและลดการสะสมของไวรัสในระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้นขิงจึงมีสรรพคุณในการต่อสู้กับโรคหวัดและอาการไข้ได้

·       แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน

ขิงสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถหรือเมาเรือ รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการจากการแพ้ท้องด้วยเช่นกัน

·       ขิงช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร

เพราะขิงช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย เนื่องจากในขิงมีสาร ซิงเจอโรน (Zingerone) ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย จึงสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.coli) ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง และอุจจาระเหลวได้

·       ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ขิงมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญกลูโคสในร่างกาย โดยช่วยให้เซลล์กล้ามเนื้อกับเซลล์ไขมันนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้นเป็นการเพิ่มการเผาผลาญให้กับร่างกาย

·       ลดอาการท้องอืด

ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ ทำให้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง บรรเทาลงได้

·       บรรเทาอาการปวดไมเกรน

สารจินเจอร์รอล (Gingerol) ยังมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบและลดอาการปวดในร่างกายได้ เพราะสารตัวนี้จะช่วยลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ รวมถึงคนที่ปวดประจำเดือนด้วยเช่นกัน

·       ลดกลิ่นปาก และ รักษาสุขภาพช่องปาก

เพราะสารต้านเชื้อแบคทีเรียในขิง มีส่วนช่วยในการลดกลิ่นปากและลดคราบพลัคแบคทีเรียในช่องปาก รวมถึงลดการปวดฟันและอักเสบได้อีกด้วย

ข้อควรระวังในการรับประทานขิง

       เนื่องจากขิงมีรสเผ็ด มีฤทธิ์ร้อน จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง เช่น ผู้ที่เหงื่อออกมาก หรือผู้ที่เพิ่งออกกำลังกายก็ควรรับประทานอย่างระมัดระวัง

       อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสำหรับสตรีมีครรภ์ได้

       ถ้าหากทานขิงในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบ จนเกิดเป็นร้อนในได้ ต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะ

       ขิง ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด จึงทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ดังนั้นผู้ที่รับประทานยาสลายลิ่มเลือดควรงดบริโภคขิง เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดห้อเลือดหรือมีเลือดออกได้

 

เติมความสดชื่นด้วยเมนูน้ำขิงมะนาวโซดา

อากาศร้อน ๆ ชาวออฟฟิศหลาย ๆ คน คงมีวิธีคลายร้อนที่แตกต่างกัน  วันนี้เรามาแนะนำเมนู  ขิงมะนาวโซดา เครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น พร้อมลุยงานตลอดวัน  แถมยังทำง่าย ได้ประโยชน์จากขิงและมะนาวไปเต็ม ๆ อีกด้วย

วัตถุดิบในการทำ ขิงมะนาวโซดา

       ขิงขูดละเอียด 3/4 ถ้วย (ขิงแก่จะเผ็ดร้อน ขิงอ่อนจะไม่เผ็ดมากให้รสชาติที่นุ่มละมุน)

       น้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง

       น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง หรือ 240 ml

       น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

       น้ำแข็ง

       โซดา 1 ขวด

วิธีการทำ

1.        เริ่มต้นด้วยการต้มน้ำด้วยไฟปานกลาง จากนั้นเติมน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน

2.        เติมขิงขูดละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น 20 นาที

3.        เติมน้ำมะนาวตามความเปรี้ยวที่ต้องการ

4.        เทใส่แก้วเติมโซดา น้ำแข็ง และตกแต่งด้วยมะนาวฝานหรือใบมินต์ตามใจชอบ

 

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

       เว็บไซต์ Medthai

http://bitly.ws/GcAs

       โรงพยาบาลวิชัยยุทธ

http://bitly.ws/GcAC

       เว็บไซต์ Pobpad

http://bitly.ws/GcBW

·       สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดปัตตานี

http://bitly.ws/GcCa

       Simply Recipe

http://bitly.ws/Gd6C


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy